OMODA C5 EV เปิดตัว/เปิดราคา/เปิดขาย 6 สิงหาคมนี้

OMODA C5 EV รถยนต์ครอสโอเวอร์ เอสยูวี พลังงานไฟฟ้า 100% วิ่งได้ไกล 505 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลาชาร์จแบบกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเปิดราคาและจัดจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 6 สิงหาคม 2567  ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว OMODA C5 EV รถยนต์ครอสโอเวอร์ เอสยูวี พลังงานไฟฟ้า 100% ตามแผนที่เคยมีก่อนหน้านี้     

OMODA C5 EV ถูกออกแบบตามแนวคิด Light of Movement ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงดงามของสายฟ้าที่เคลื่อนผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างรวดเร็ว โดยเส้นสายของตัวรถจะปรากฏให้เห็นทุกครั้งที่แสงไฟตกกระทบที่ตัวรถ

ส่วนด้านหน้าของตัวรถจะเห็นสัญลักษณ์รูปตัว "X" ที่เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว รับกับไฟหน้า LED แนวยาวที่ตกแต่งด้วยโครเมียม

OMODA C5 EV ได้ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ เพียง 0.281 ทำให้สามารถพุ่งทะยานได้ไกล และคล่องตัว

ภายในห้องโดยสารมีฟังก์ชัน Multi Color Ambient Light สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 64 สี ช่วยสร้างบรรยากาศภายในรถให้มีชีวิตชีวา ปรับสีที่ใช่ได้ตามใจชอบ

เสริมความสบายด้วยฟังก์ชั่น Seat Ventilation เบาะนั่งที่ออกแบบมาคู่กับระบบระบายอากาศ ที่แม้ว่าจะต้องจอดรถ หรือขับรถกลางแดดนานแค่ไหน ก็ยังคงรู้สึกเย็นสบายในทุกระยะทางการขับขี่ และภายใต้ความเร็วที่สูงถึง 120 กม./ชม. OMODA ให้ความสำคัญกับความเงียบภายในห้องโดยสาร

และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัล เพราะระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สายภายในรถจะทำให้สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 50W พร้อมระบบระบายความร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิขณะชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดทัศนวิสัยของการขับขี่ได้กว้างยิ่งขึ้นด้วยระบบกล้อง 540 องศา ถ่ายทอดภาพรอบคันรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครอบคลุมทุกทิศทาง ให้เลือกมุมมองได้โดยรอบ รวมถึงใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่และจอดรถ

เทคโนโลยีความปลอดภัย 17+1 ฟังก์ชัน

OMODA C5 EV มีเทคโนโลยีความปลอดภัยถึง 17+1 ฟังก์ชัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ หรือ Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งความพิเศษของระบบ ACC นี้คือ สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วตามรถคันหน้าได้ หากรถมีความเร็วมากกว่ารถคันหน้า ระบบจะลดความเร็วให้เท่ากับรถคันข้างหน้า โดยจะทิ้งระยะห่างให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไร้ปัญหาในการเหยียบเบรคเมื่อเห็นรถคันหน้าเบรคกระทันหัน

การถอยหลังออกจากที่จอด ก็ไม่ต้องให้ใครลงไปโบก เพราะมีระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ หรือ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเรดาร์ตรวจจับเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ที่จะช่วยส่งสัญญาณเสียงเตือนทันทีเมื่อมีรถคันอื่นวิ่งเข้ามาในระยะการถอย

นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking) โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อมีสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบ FCW จะแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่เหยียบเบรก หากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรก ระบบ AEB จะทำการเบรกอัตโนมัติ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนถนน

OMODA C5 EV มีโหมดแคมป์ปิ้ง ที่เปลี่ยนรถให้กลายเป็นแบตเตอรี่สำรองในการจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆภายนอก ผ่านระบบ V2L หรือ Vehicle-to-Load ขนาด 3.3 กิโลวัตต์ ที่เปลี่ยนรถให้กลายเป็นแบตเตอรี่สำรองในการจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายนอกรถ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว หรือแม้กระทั่งโน๊ตบุค ช่วยให้นั่งทำงาน หรือแคมป์ปิ้งได้แบบชิลๆ
นอกจากนี้ยังสามารถปรับอุณหภูมิภายในรถให้เหมาะสม มีอากาศหมุนเวียนตลอดเวลา สามารถนอนในรถได้อย่างสบายและปลอดภัย

OMODA C5 EV สามารถวิ่งได้ไกลสุด 505 กม.(ตามมาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ใช้ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที

พร้อมลุยทุกเส้นทางที่ท้าทายไปกับ OMODA C5 EV กับระบบป้องกันการกระแทกใต้ท้องรถ ที่รองรับด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบ Bottom Scraping Test ให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่มีอุปสรรคใดจะหยุดยั้งการเดินทางของคุณ ทั้งทางขรุขระ หรือท้องถนนที่มีขอบสูง พร้อมรับมือกับทุกสภาพถนน

ที่มา : โอโมดา แอนด์ เจคู