ยอดจดทะเบียนสะสมรถ BEV ในไทยสร้างสถิติใหม่ที่ 167,334 คัน เพิ่มขึ้นเฉียด 200%

ยอดจดทะเบียนสะสมยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ในไทย ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ทำนิวไฮที่ 167,334 คัน เพิ่มขึ้นเฉียด 200% เฉพาะ 4 เดือนแรก ระหว่างมกราคม - เมษายน 2567 จดทะเบียนใหม่สะสม 35,755 คัน แต่ เม.ย. ชะลอตัว มียอดจดเพิ่มเพียง 6,041 คัน และยอดขายรถ BEV เดือน เม.ย. 2567 ลดความร้อนแรง เหลือ 3,900 คัน

• ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนเมษายน 2567 มียอดจดทะเบียนใหม่ 6,041 คัน ลดลงจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว 16.60%
• เดือนมกราคม - เมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 35,755 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - เมษายนปีที่แล้ว 36.30%
• ยอดจดทะเบียนสะสมยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 มีทั้งสิ้น 167,334 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 187.38%
• ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เดือนเมษายน 2567 มี 3,900 คัน ลดลงร้อยละ 7.21
  

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเมษายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 46,738 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 16.69 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 21.49 จากการเข้มงวดในการอนุมุติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในระดับต่ำจากความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การใช้จ่ายการลงทุนของรัฐบาลลดลงมากจนทำให้กำลังซื้อของประชาชนอ่อนแอลง
ยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 27,078 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.83 แบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 12,757 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 3,900 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 132 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,289 คัน
  

ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2567 รถยนต์มียอดขาย  210,494 คัน แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 126,707 คัน

• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 56,650 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 23,031 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 695 คัน
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 46,331 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนเมษายน 2567

เดือนเมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,041 คัน ลดลงจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 16.60 แบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ 4,091 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 4 คัน 
• รถยนต์สามล้อรับจ้าง 22 คัน 
• รถจักรยานยนต์ 1,853 คัน 
• รถโดยสาร 61 คัน
• รถบรรทุก 10 คัน 

ยอดจดทะเบียนใหม่สะสมของยานยนต์ประเภทไฟฟ้า 100% (BEV) เดือนมกราคม – เมษายน 2567 มีจำนวน 35,755 คัน

เดือนมกราคม – เมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 35,755 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 36.30 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 26,277 คัน 

• รถยนต์นั่งจำนวน 25,583 คัน
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 652 คัน
• รถยนต์บริการธุรกิจ 5 คัน
• รถยนต์บริการทัศนาจร 34 คัน
• รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 3 คัน

รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 152 คัน 

รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 29 คัน

รถจักรยานยนต์ 9,059 คัน 

รถโดยสาร 107 คัน

รถบรรทุก 131 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนเมษายน 2567

เดือนเมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,414 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 68.02 แบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,371 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2566 ร้อยละ 31

• รถยนต์นั่ง 10,359 คัน
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 4 คัน
• รถยนต์บริการธุรกิจ 4 คัน
• รถยนต์บริการทัศนาจร 4 คัน

รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 43 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2566 ร้อยละ 44

เดือนมกราคม – เมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  48,528 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 58.41 โดยแบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 48,397 คัน 

• รถยนต์นั่ง 48,343 คัน
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 10 คัน
• รถยนต์บริการธุรกิจ 2 คัน
• รถยนต์บริการทัศนาจร 29 คัน
• รถยนต์บริการให้เช่า 3 คัน

 รถจักรยานยนต์ 131 คัน

 ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนเมษายน 2567

เดือนเมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 639 คัน ลดลงจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 18.49 

เดือนมกราคม – เมษายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม  3,349 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 19.73 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2567

ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 167,334 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 187.38 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 115,901 คัน 

• รถยนต์นั่ง 114,251 คัน 
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน 1,255 คัน 
• รถยนต์บริการธุรกิจ 62 คัน 
• รถยนต์บริการทัศนาจร 93 คัน 
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 240 คัน 

รถกระบะและรถแวน 434 คัน 

รถยนต์ 3 ล้อ 921 คัน 

รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล 88 คัน 

รถยนต์รับจ้างสามล้อ 833 คัน 

รถจักรยานยนต์ 47,116 คัน 

 อื่นๆ

 รถโดยสาร 2,527 คัน 

รถบรรทุก 435 คัน 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2567

ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีทั้งสิ้น 391,714 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 35.06 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

 รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 382,563 คัน

• รถยนต์นั่ง 381,669 คัน 
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ 485 คัน 
• รถยนต์บริการธุรกิจ 65 คัน 
• รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 183 คัน 
• รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน 
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 156 คัน 

รถกระบะและรถแวน 1 คัน

รถจักรยานยนต์ 9,148 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2567

ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มี 57,269 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 23.07 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 57,269 คัน

• รถยนต์นั่งมีจำนวน 57,197 คัน 
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 41 คัน 
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 23 คัน 
• รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 5 คัน 

อ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ https://url.fti.or.th/l/MEAr4gA8r

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)