X

อีอีซี ร่วมลงนาม MOU กรมธุรกิจพลังงาน และกฟผ. พัฒนาต้นแบบสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ EECd คาดให้บริการปี 2568

Last updated: 4 เม.ย 2567  |  955 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อีอีซี ร่วมลงนาม MOU กรมธุรกิจพลังงาน และกฟผ. พัฒนาต้นแบบสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ EECd

อีอีซี ร่วมลงนาม MOU กรมธุรกิจพลังงาน กฟผ. พัฒนาต้นแบบสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล ( EECd) สร้างโอกาสดึงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต การพัฒนาพลังงานสะอาด และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ  คาดเปิดให้บริการปี 2568

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง อีอีซี ร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ  ผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมในการลงนามฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้อง Auditorium อาคาร ท.103 สำนักงาน กฟผ. เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567


การลงนาม MOU ความร่วมมือฯ ครั้งนี้ ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้ร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาพื้นที่บางส่วนของกรมธุรกิจพลังงาน จังหวัดชลบุรี ให้เป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Charging Station ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือ EECd โดยมุ่งหวังให้เป็นต้นแบบของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของประเทศ พร้อมเป็นพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป รวมทั้งเปิดให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้เข้าใช้บริการ ถือเป็นการส่งเสริมเปลี่ยนผ่านการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่อีอีซี และขับเคลื่อนระบบนิเวศทางธุรกิจสร้างโอกาสลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เพื่อดึงดูดนักลงทุนสู่พื้นที่อีอีซี อย่างต่อเนื่อง

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายยานยนต์แห่งชาติ ได้กำหนดเป้าหมายให้มีการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก จำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับและส่งเสริมระบบนิเวศที่สำคัญ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ครอบคลุมและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่บางส่วนของสำนักงานกรมธุรกิจพลังงานในพื้นที่อีอีซีให้เป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่นอกจากรองรับการใช้งานของประชาชนแล้วยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของกระทรวงพลังงาน เยาวชนและประชาชนทั่วไป

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ส่งเสริมมาตรฐานและยกระดับการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่อีอีซี ผลักดันให้เกิดการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ทั้งพลังงานสะอาด ระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล มีศักยภาพรองรับการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา เปรียบเสมือนโชว์รูม ด้านนวัตกรรมของไทย ทั้งยังเป็นการขยายผลไปยังเขตส่งเสริมพิเศษต่าง ๆ ถือเป็นหมุดหมายอันดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้พลังงานสะอาด สร้างการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในพื้นที่อีอีซีต่อไป

ด้าน นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฟผ. ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EleX by EGAT) และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA มาตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้ธุรกิจ EGAT EV Business Solutions ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเกือบ 200 สถานีทั่วประเทศ มีผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นทุกปี การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญของ EleX by EGAT ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้กับประเทศ ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (EleX by EGAT Eco Charging Sphere)

ความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบบนพื้นที่ EECd ขนาด 5 ไร่ ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พื้นที่พักผ่อน อาคารในพื้นที่จะใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์รูฟท็อป และเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน ตามมาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ภายใต้แนวคิด Green Energy สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รองรับความต้องการของประชาชนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในพื้นที่และการเดินทางมายังภาคตะวันออก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

 
ที่มา: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้