Last updated: 8 ธ.ค. 2566 | 595 จำนวนผู้เข้าชม |
เครือซีพี ผนึก โตโยต้า จับมือ CJPT ประกาศความสำเร็จในการผลิตไฮโดรเจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนหลากมิติ ทั้งด้านพลังงาน ด้านข้อมูล และยานยนต์ไฟฟ้า HEV, BEV และ FCEV ในงานประชุมระดับโลก COP28
การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 (COP28) ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) และ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) ประกาศความคืบหน้าโครงการนำร่องการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพแห่งแรกของประเทศไทย เริ่มต้นผลิตได้ 2 กิโลกรัม/วัน
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนชีวภาพ (Bio-Hydrogen) ซึ่งได้มาจาก ของเสียของสัตว์ปีก ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคขนส่ง สอดคล้องกับแนวคิดสำคัญของการประชุม COP28 ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์สำคัญ 4 ด้าน หนึ่งในนั้นคือเร่งการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย มาใช้ในการพัฒนาก๊าซชีวภาพที่ได้จากของเสียจากฟาร์มสัตว์ปีกของเครือซีพี ในการผลิตก๊าชไฮโดรเจนชีวภาพ
เครือซีพี โตโยต้า และ CJPT ได้ร่วมกันนำนวัตกรรมผสานความมุ่งมั่นในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยโตโยต้ายังได้จัดแสดงอุปกรณ์การผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพแห่งแรกของประเทศไทย ที่สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียที่จังหวัดสมุทรปราการเพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพของไฮโดรเจนชีวภาพ ในฐานะแหล่งพลังงานสะอาด และจะเริ่มทดลองใช้สำหรับการขนส่งระยะไกล รวมทั้งมีการทดสอบประสิทธิภาพของไฮโดรเจนชีวภาพ พลังงานทดแทนสำหรับภาคการขนส่ง โดยหวังว่าจะนำไฮโดรเจนชีวภาพใช้กับการขนส่งระยะไกลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และใช้ในการดำเนินงานบางส่วนในประเทศไทย
ภายใน Thailand Pavilion ในงาน COP28 ณ เมืองดูไบ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “พวกเราทุกคนต้องแข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประชุม COP28 ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราทุกคนที่จะรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด และสร้างสรรค์นวัตกรรม จากความร่วมมือกับ โตโยต้า และ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) เพื่อค้นหาวิธีปฏิวัติการใช้พลังงานทดแทนและแนวทางใหม่เพื่อนำไปสู่อนาคต จากความร่วมมือนี้เราจะสร้างโลกที่ความยั่งยืน และเป็นวิถีของการดำรงชีวิต”
ไฮโดรเจนชีวภาพจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในประเทศไทย นอกเหนือจากการนำของเสียจากสัตว์ปีกไปเป็นผลิตก๊าซชีวภาพแล้ว ความร่วมมือครั้งนี้ยังขยายไปสู่ภาคยานยนต์ นับเป็นอีกความสำเร็จของการทดลองใช้โดรนยานยนต์ไร้คนขับสนับสนุนภาคการเกษตรของประเทศไทย โตโยต้าได้นำโดรนที่ใช้ไฮโดรเจนชีวภาพ นำมาใช้งานในฟาร์มซีพีหลายแห่ง ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การใส่ปุ๋ย ตลอดจน งานเกษตรกรรมอื่นๆ
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชีย โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความก้าวหน้าในการดำเนินการเพื่อสังคมร่วมกับทาง ซีพี บรรลุผลด้วยดีในการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ มีส่วนสร้างความสุขให้กับคนไทย 67 ล้านคน ภายใต้แนวคิด “doing what can be done now” ร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ด้วยทรัพยากรทางการเกษตรของประเทศรวมกับความแข็งแกร่งตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของซีพี ผนวกกับความเชี่ยวชาญทางธุรกิจยานยนต์ ของโตโยต้าและ CJPT
การทดลองครั้งแรกในประเทศไทย ในการผลิตไฮโดรเจนจากการใช้ก๊าซชีวภาพ จากฟาร์มสัตว์ปีกสามารถนำไปใช้เพื่อการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราต้องการขยายขอบเขตความร่วมมือ ริเริ่มโครงการเพื่อสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ พลังงาน ข้อมูล และยานยนต์”
เครือเจริญโภคภัณฑ์มีการดำเนินธุรกิจยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ผ่านบริษัทในเครือฯ ความร่วมมือในครั้งนี้ได้มีการศึกษายานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ เพิ่มเติม ทั้ง HEV (ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด), BEV (ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่) และ FCEV (ยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโดยสารขนส่งในเมืองและการขนส่งของภาคการเกษตร รวมถึงการนำข้อมูลมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการคำนวณน้ำหนักบรรทุกที่เหมาะสม อีกทั้งวางแผนเส้นทางเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการขนส่ง
นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ โตโยต้า สนใจสนับสนุนการลดการปล่อยปริมาณคาร์บอนร่วมกัน ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นพันธมิตรมากว่า 25 ปี ได้มีการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งหาแนวทางใหม่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสำหรับประเทศไทย มีเป้าหมายศึกษาศักยภาพการผลิต การขนส่ง และการใช้ไฮโดรเจนชีวภาพทุกธุรกิจของเครือฯ โดยเริ่มทดลองจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในบางพื้นที่ หลังจากนั้นจะมีการขยายให้ครอบคลุม รวมทั้งเชิญชวน พันธมิตรและชุมชนต่างๆ ร่วมพันธกิจในการเดินทางครั้งนี้”
“ด้วยความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของทั้ง เครือเจริญโภคภัณฑ์ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ Commercial Japan Partnership Technologies เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและการมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”