มาตรการ EV 3.5 ออกฤทธิ์! คาดประชากรมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยพุ่ง 763,000 คันภายในปี 2573
Last updated: 22 พ.ย. 2566 | 1673 จำนวนผู้เข้าชม |
Arthur D. Little คาดประชากรมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยพุ่ง 763,000 คันภายในปี 2573 ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Honda , Yamaha , Deco , NIU , H SEM เข้ามาแข่งขันทำตลาด โดยมีมาตรการ EV 3.5 เร่งการเติบโต
บีโอไอระบุว่า กระแสของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ทำให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ EV Motorbikes เข้ามามีบทบาทสำคัญ ที่ช่วยปลุกกระแสความนิยมการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่แพ้การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เห็นได้จากยอดขายและยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่มียอดขายเพียง 1,500 คันในปี 2562 เพิ่มขึ้นมาเป็น 6,000 คันในปี 2564 โดยแนวโน้มการเติบโตนี้จะยังคงดำเนินเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
Arthur D. Little บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลก คาดการณ์ว่าการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 763,000 คันภายในปี 2573 โดยจะมีผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Honda Yamaha หรือผู้เล่นรายใหม่อย่าง Deco NIU H SEM เข้ามาทำตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่ออนาคตของตลาดนี้
โครงการ EV 3.5 เร่งพลังการเติบโตของมอเตอร์ไซค์ EV
บอร์ดอีวีของประเทศไทยได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ซึ่งจะดำเนินไปตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปี 2570 เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรม EV ให้เกิดการลงทุนภายในประเทศ โดยภาครัฐจะให้เงินอุดหนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 150,000 บาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh ขึ้นไป
โดยมาตรการ EV 3.5 กำหนดให้ผู้ได้รับการสนับสนุนต้องตั้งฐานผลิตในประเทศไทยเพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 2569 ด้วยอัตราส่วน 1:2 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน) และเพิ่มเป็น 1:3 หากผลิตภายในปี 2570 โดยยานยนต์ที่ผลิตต้องผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและผ่านการทดสอบมาตรฐานตามมาตรฐานสากลจากศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC)
นอกจากมาตรการ EV 3.5 แล้ว ภาครัฐยังขับเคลื่อนนโยบาย 30@30 สู่เป้าหมายผลิตรถ Zero Emission Vehicles (ZEVs) 30% ภายในปี 2573 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่เป้าหมายสังคมแห่ง Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions
ประเทศไทยก้าวหน้าสู่อนาคตพลังงานสะอาดด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า! ลดฝุ่น ลดเสียง และการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ อีกหนึ่งทางเลือกช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคน้ำมันแพง เพียงชาร์จแบตเตอรี่ได้ง่าย ๆ ที่บ้านหรือจะเลือก SWAP ด้วยการสลับแบตเตอรี่สะดวกทันใจ ณ จุดที่ให้บริการ พลิกโฉมหน้าการเดินทางในไทย เพื่อโลกใสสะอาด ไร้มลพิษ
ที่มา : BOI NEWS
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
