Last updated: 18 ส.ค. 2566 | 3622 จำนวนผู้เข้าชม |
โตโยต้าเปิดตัว The All-new Toyota C-HR 2023 ตามที่ประกาศไว้ เมื่อ 26 มิถุนายน 2566 เป็นรุ่นที่ทำตลาดในยุโรป มาแบบแพ็คคู่ 2 เวอร์ชั่น ทั้ง Hybrid และ Plug-in Hybrid
เวอร์ชั่นไฮบริดมีทั้งเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 140 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 194 แรงม้า (HEV) พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD-i เป็นออปชันเสริม โดยจะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลังอีก 1 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและยึดเกาะถนน
ส่วนรุ่น plug-in hybrid (PHEV) ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 13.6 kWh ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 41 แรงม้า ให้กำลังสูงสุด 226 แรงม้า วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกล 65 กิโลเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
มีฟังก์ชัน One pedal ที่สามารถปรับแรงหน่วงได้ 3 ระดับ และปรับโหมดการขับขี่เป็นไฟฟ้าโดยอัตโนมัติเมื่อรถเคลื่อนที่เข้าสู่เขตมลพิษต่ำในตัวเมือง
ดีไซน์ภายนอกถือว่าใกล้เคียงกับรถต้นแบบที่เคยโชว์ตัวไปก่อนหน้านี้ เป็นสไตล์ครอสโอเวอร์ เอสยูวี ออกแบบเส้นสายรอบคันเฉียบคมราวกับผ่านการเจียระไนแบบ Diamond Cut ดูหรูหรา ล้ำยุค ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัว กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน
โดดเด่นด้วยสีตัวถังแบบทูโทน ใช้สีตัดกันระหว่างตัวถังส่วนหน้า กับส่วนท้ายและหลังคา ออกจากกัน
ด้านหน้าทรง Hammerhead อันเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้า Full LED 4 ดวง รูปตัว C พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าเป็นทรงห้าเหลี่ยมมีช่องระบายอากาศ กันชนหน้ามาพร้อมไฟตัดหมอก LED
ด้านท้ายมาพร้อมสปอยเลอร์หลังดีไซน์เล่นระดับพร้อมหลังคาดำยาวมาจนถึงเสา C และด้านท้ายทั้งหมด พร้อมไฟท้าย LED แนวยาวแบบ Blackout ติดตัวอักษร Toyota C-HR เรืองแสงตรงกลางท่ามกลางพื้นสีดำ ด้านล่างติดแผ่นป้าย HEV หรือ PHEV กับ GR Sport รับกับกันชนหลังทรงสปอร์ต
คิ้วขอบล้อดีไซน์เข้ากันกับตัวถัง ล้ออัลลอยหรูขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R19 หรือขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 245/40R20 เป็นออปชั่น
มิติตัวรถ ความยาว 4,360 มม. ความกว้าง 1,830 มม. ความสูง 1,558 มม./ 1,564 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม.
ในรุ่น GR Sport Premiere Edition ใส่ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ติดตราสัญลักษณ์ GR เบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมโลโก้ GR และอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึง Head-up Display และระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมของ JBL ส่วนรุ่นพิเศษรุ่น High Premiere Edition เพิ่มเบาะหนังแบบเจาะรูและหลังคาแบบพาโนรามา
ภายในห้องโดยสารดูหรูขึ้น การออกแบบเน้นผู้ขับขี่ ชุดแผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง ถูกดีไซน์ให้โอบล้อมผู้ขับขี่คล้ายรถสปอร์ต เบาะหนังทรงสปอร์ต มาตรวัดเป็นจอดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มีจอมัลติฟังก์ชันตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว แยกกัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ชุดคอนโซลกลางดีไซน์แนวนอนพร้อมที่วางแขนมีที่ชาร์จไร้สาย คันเกียร์ดีไซน์สั้นจับกระชับ มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 เฉดสี หลังคาพาโนรามิกเต็มบาน เบาะนั่งหลังพับได้ 60:40
World premiere of the all-new Toyota C-HR
TOYOTA C-HR: A LANDMARK MODEL FOR TOYOTA IN EUROPE
The launch of the original Toyota C-HR was a landmark for both Toyota and the European C-SUV segment. It was a radical addition to a highly competitive market, striking a contrast with conventional SUV styling with a dramatic, sharp-edged design closer to the look of contemporary sports coupes.
Its success as an innovator helped transform public perception of Toyota in Europe, adding a strong emotional dimension to the brand. Customers responded strongly with more than half citing the car’s styling as their principal reason for purchase. The Toyota C-HR went on to become Toyota’s best-performing model for conquest sales.
The all-new, next generation Toyota C-HR takes the stand-out quality and status of its predecessor to a higher level with avantgarde design, advanced technologies and a range of electrified hybrid and plug-in hybrid powertrains with increased power, greater driveability and extended all-electric driving capabilities. It also reinforces Toyota’s commitment to Europe: the new model was conceived in Europe with European customers firmly in mind, and it is being built exclusively in Europe, including assembly of its high-voltage battery units.
ที่มา : https://newsroom.toyota.eu/